DRK MEDICAL BANGKOK
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
How can i help you?
เริ่มแชท

ขลิบแบบไร้เลือด & ขลิบแบบเลเซอร์ 

ขลิบแบบไร้เลือด (Circumcision Stapler)
เทคนิคนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ เครื่องมืออัตโนมัติ ที่เรียกว่า “Circumcision Stapler” เครื่องนี้จะทำหน้าที่ ตัดและเย็บแผลในขั้นตอนเดียวกัน
เลยเรียกว่า “ไร้เลือด” เพราะมันมีระบบหนีบแผลและแม็กปิดทันที เลือดเลยออกน้อยมาก

ลักษณะเด่น:
1. ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 10–20 นาที เท่านั้น
2. ตอนทำแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ
3. หลังตัดแล้วจะมี “แม็กเย็บ” รอบแผล ซึ่งจะค่อย ๆ หลุดออกเองภายในไม่กี่สัปดาห์
4. เหมาะกับคนที่ต้องการทำเร็ว แผลสวย ไม่อยากนอนโรงพยาบาลนาน

ข้อจำกัด:
1. ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่อง เลือดแข็งตัวช้า, โรคประจำตัวบางอย่าง
2. ถ้าเป็นคนที่มี หนังหุ้มปลายหนา, ปลายตีบ, น้ำหนักเยอะ หรือของจมหัวเหน่า อาจทำได้ยาก
3. คนที่ผิวแพ้ง่ายอาจมี อาการระคายเคือง หรือแผลแห้งไม่ดีเท่าที่ควร
4. หลังแผลหาย อาจมี หนังกองเหลือประมาณ 30–40% ทำให้หัวไม่เปิดเต็มที่

ขลิบแบบเลเซอร์ (Sleeve Technique)
1. เทคนิคนี้ใช้เครื่อง เลเซอร์หรือเครื่องจี้ไฟฟ้า ในการเปิดแผลและห้ามเลือดไปพร้อมกัน
2. แพทย์จะตัดหนังหุ้มปลายออกด้วยความร้อนที่แม่นยำ จากนั้นเย็บแผลด้วย ไหม/ไหมละลาย
3. ที่สำคัญคือแพทย์สามารถ “ออกแบบระดับของหนัง” ได้ว่าอยากให้ ตึงหรือพอดีตอนแข็งตัว

ลักษณะเด่น:
1. ใช้เวลา ประมาณ 20–50 นาที (นานกว่าแบบไร้เลือดนิดหน่อย เพราะต้องเย็บด้วยมือ)
2. แผลบวมน้อย แห้งเร็ว เพราะเลเซอร์ช่วยห้ามเลือดได้ดี
3. เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่อง เลือดแข็งตัวยาก, อ้วน, หัวจม, หรือ หัวเปิดไม่ได้เลย
4. แผลเรียบและเนียนกว่าเพราะแพทย์ควบคุมรูปร่างได้ละเอียด

ข้อดีเพิ่มเติม:
1. ปรับระดับความตึงได้ตามต้องการ
2. เหมาะกับคนที่อยากให้แผลดูธรรมชาติ ไม่มีหนังกอง
3. แผลมักเรียบและสวยกว่าแบบ stapler

สรุป
1.  ถ้าอยาก “เร็ว สะดวก เจ็บน้อย” → ไร้เลือด (Stapler)
2. ถ้าอยาก “แผลสวย เนียน ปรับได้ตามต้องการ” → เลเซอร์ (Sleeve Technique)
3. ทั้งสองแบบ เจ็บเท่ากัน เพราะฉีดยาชาก่อนทำเหมือนกัน
4. การเลือกขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและคำแนะนำของแพทย์ครับ

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้